Jump to ratings and reviews
Rate this book

สู้ดิวะ

Rate this book
เมื่อคุณหมอวัยหนุ่มอนาคตไกล พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ได้ทบทวนความหมายของชีวิตอย่างลึกซึ้ง

สู้ดิวะ งานเขียนอัตชีวประวัติเล่มเล็กที่เข้มข้นและลึกซึ้ง มาพร้อมกับข้อเขียนที่จริงใจและทรงพลังจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่

192 pages, Paperback

First published October 1, 2023

Loading interface...
Loading interface...

About the author

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
99 (59%)
4 stars
52 (31%)
3 stars
14 (8%)
2 stars
1 (<1%)
1 star
0 (0%)
Displaying 1 - 30 of 38 reviews
Profile Image for Clairdenoon.
1,731 reviews332 followers
October 25, 2023
...ผมอยากเป็นคนที่นั่งลงข้างๆคนไข้และทำให้เขารู้สึกว่า "โชคดีจังที่ได้มาเจอหมอคนนี้"...
#สู้ดิวะ
#กฤตไท ธนสมบัติกุล

#วิชลิสต์งานหนังสือตุลาคม2023✔
description
description
description

❤เป็นเล่มที่ตั้งตารออ่านเลย ดีใจมากที่ได้อ่าน เป็นหนังสือที่จริงใจ เรียบง่ายและทรงพลังมากๆ รับรู้ได้ว่าใช้หัวใจเขียน🥹
ดื่มน้ำเยอะๆก่อนอ่าน ตั้งใจละเลียดอ่านทุกตัวอักษร เปิดเพลงตามตอนอ่านด้วย[🎵 WANYAi แว่นใหญ่ – ขอบคุณ l Thankful, STAMP - 20,000 (สองหมื่น) ] หมายมั่นว่าจะอ่านรวดเดียวจบ
~อ่านจบ2.50am มีหลายสิ่งที่อยากบันทึกไว้...

1.หนังสือบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของคุณหมอ
~คุณหมอไท เป็นชาวเชียงใหม่ เกิดและเติบโตที่กทม.จบมัธยมจาก สวนกุหลาบฯ(OSK131) เป็นเดือนคณะแพทย์ฯ ม.ช. ใช้ชีวิตปกติ เรียน เล่นกีฬา(อยู่ชมรมบาสเกตบอล เป็นกัปตันทีม)อ่านหนังสือ ฟังพอดแคสต์ วางแผนการลงทุน เพิ่งเรียนจบแพทย์เฉพาะทาง พร้อมป.โทวิทยาการข้อมูลอีกใบ เพื่อมาเป็นอาจารย์แพทย์ตามที่ฝัน คุณหมอคุกเข่าขอแฟนแต่งงานแล้ว และกำลังมองหาบ้านในฝันที่จ��อยู่สร้างครอบครัวด้วยกัน ช่วงปลายปีมีแพลนจะไปเรียนคอร์สสั้นๆที่สวิตเซอร์แลนด์ ชีวิตกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี...ดีมากๆ แต่มีอาการไอแห้งๆ ไอมีเสมหะ ไอไม่หายสักที ...วันที่3ตุลาคม 2565 จึงตัดสินใจไปตรวจจริงจัง🩻

2.ไม่มีทางหายขาดจากโรคนี้
คุณหมอเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ระยะลุกลามที่ไม่สามารถผ่าตัดเอาก้อนเนื้อร้ายออกแล้วหายขาดได้อย่างแน่นอน เป็นระยะที่เชื้อมะเร็งอยู่ในกระแสเลือดไปแล้ว และยังพบว่ามีก้อนเนื้อร้ายกระจายไปที่สมองอีก13ก้อน ...แพลนทุกอย่างในชีวิตเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ รับมือกับโรคร้าย แผนการรักษาสามารถดำเนินไปได้ตามการวินิจฉัยเพราะคุณหมอวางแผนการเงินมาดีและได้ทำประกันสุขภาพโรคร้ายแรงเอาไว้ ...ระหว่างนี้มีหลายคนมักจะบอกกับคุณหมอว่า
"หายไวๆนะคะ"
"ขอให้หายนะครับ"
คุณหมอ:ขอบคุณจากใจจริง...แต่สิ่งนั้นไม่มีทางเกิดขึ้น

3.บอกเล่าวิธีการรักษา,การรับมือกับสภาวะจิตใจ ,มุมมองความคิดที่ตกผลึก ,ความหมายของชีวิต,ความหวังที่จะมีชีวิตต่อไป,มรณานุสติ และบางสิ่งที่อยากฝากไว้ให้โลกใบนี้

จากคำถามที่คุยกับเพื่อนว่า "ไทยังอยากทำอะไรอีกไหม ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่"
คำตอบของคุณหมอคือ อยากทำช่วงที่เหลือให้ดีที่สุด ส่งต่อพลังบวกให้ได้มากที่สุด เตือนทุกคนให้ได้มากที่สุด ให้เห็นถึงแนวคิดสำคัญที่ได้ตกตะกอนในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ไม่มาก ..."คงจะดีมากถ้าชีวิตที่สั้นลงของผมสามารถเป็นกำลังใจและเป็นพลังให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่"
...เพจ"สู้ดิวะ" จึงเกิดขึ้น
ซึ่งได้พูดถึง มุมมองของ การตระหนักว่าเวลาในชีวิตเรามีจำกัด
การรับรู้ถึงความโชคดีของการมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันการใช้เวลาของแต่ละวันไปกับสิ่งสำคัญและใช้ชีวิตให้มีคุณค่าในตอนที่ยังมีโอกาสได้ทำ
---ตอนอ่านในพาร์ทของการรักษา คุณหมอเล่าเรื่องยากๆเป็นภาษาง่ายๆที่คนไม่รู้ศัพท์การแพทย์เข้าใจได้ เล่าอย่างตรงไปตรงมา จริงใจเหมือนได้เข้าไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นๆ รับรู้ ไปพร้อมๆกับผู้เขียนด้วย
---ตอนอ่านพาร์ทที่พูดถึงระบาดวิทยาคลินิก🤯คือรู้เลยว่าคุณหมอมีแพชชั่นอย่างเต็มเปี่ยมในสาขาวิชานี้ รักการเป็นอาจารย์และการถ่ายทอดความรู้ แบบไร้ข้อกังขา
---ตอนอ่านพาร์ทที่คุณหมอไปพูดคุยกับน้องส.ก.141 ในงานจากเหย้า นึกถึง เทย์เลอร์ สวิฟต์ , สตีฟ จอบส์เลย...so cool!
---ตอนอ่านในพาร์ทที่พูดถึงคนรัก..."เช้าแล้วนะ วันนี้โลกให้เวลาเรามาใช้ด้วยกันอีกหนึ่งวันแล้ว ดีจังเลยเนาะ"
.......😭 😭

4.ท่ามกลางการรักษาที่หนักหน่วง คุณหมอมีอารมณ์ขันในการเล่าเรื่องที่ทำให้บรรยากาศอึมครึมเปลี่ยนเป็นมีรอยยิ้มที่มุมปาก
เช่น
- ทั้งที่กำลังบรรจุเป็นอาจารย์แพทย์ได้สองเดือน ก็ได้ตั๋วเลื่อนขั้นเป็นอาจารย์ใหญ่เฉยเลย
-ด้วยความที่ผมค่อนข้างเป็น'ส.ส.'ในสวนดอก อยู่บ้าง
-ชูสองนิ้วให้คนรู้จัก ชูนิ้วกลางให้เพื่อน
-ใช่ครับ หลังได้คีโมผมติดโควิดด้วย ลูกรักพระเจ้าไหมล่ะ
- “แม้จะรักชีวิตนี้มาก อยากมีชีวิตต่อไปให้นานที่สุดแต่ถ้ามันไม่เป็นไปอย่างที่คิดผมก็โอเคนะ” ผมเพียงแค่อยากฝึกตัวเองให้วันนึงไปอยู่ในจุดที่เมื่อความตายมาหาผมจริง ผมพร้อมที่จะเจอมันมากกว่าตอนที่ไม่ได้ฝึกมาก่อนหวังว่าผมจะยิ้มรับมัน แล้วก็ตอบไปว่า "โอเคมาแล้วเหรอ"อยากจะไปแบบสงบๆนิ่งๆคูลๆน่ะครับ

5.ข้อคิดที่ชอบ:
— โลกใบนี้ปราศจากความแน่นอน และชีวิตเป็นสิ่งเปราะบางไม่สามารถควบคุมให้เป็นไปอย่างที่ต้องการได้
— ความสุขไม่ได้อยู่ที่ปลายทาง ทว่าเกิดขึ้นระหว่างทางที่เราเดินไป
— ปล่อยวางอดีตแล้วอยู่กับปัจจุบันตรงหน้า
มันเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าเพราะอะไร มันเกิดขึ้นแล้ว
ยอมรับมันแล้วไปกันต่อ
เรายังมีลมหายใจ เรายังมีชีวิต ดังนั้นควรตั้งหลักใหม่ เลิกโทษโชคชะตาแล้วมาคิดว่าจะเอายังไงต่อดีกว่า
— การเลือกที่จะมองสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิตไม่ว่าจะดีหรือร้ายว่าเป็น’ของขวัญ’
แทนที่จะมองสิ่งที่ขาดหายแต่เราเลือกที่จะมองสิ่งที่มีอยู่ แล้วเอ็นจอยกับมัน
เพราะทุกช่วงเวลาล้วนสำคัญ
ทุกวันมีความหมาย
ทุกนาทีคือโอกาส

— ความจริงแล้วมันไม่มี ‘ปัญหาของเราคนเดียวหรอก’ ไม่ว่าเรากำลังเจอปัญหาอะไรมีคนเคยเจอเหมือนเราแน่นอน
— การเป็นคนธรรมดาคือการยอมรับความจริงที่ว่า “เราอาจจะแค่เกิดมาแล้วตายไปแบบไม่มีใครจำได้ แต่เราก็มีชีวิตที่แฮปปี้นะ”
— เราเกิดมาแล้วก็จะจากไป แล้วก็จะวนไปแบบนี้
เราเป็นคนธรรมดาที่มีเวลาจำกัด เวลาเรามีน้อยเกินกว่าจะไปทำตัวไม่น่ารักใส่กัน แค่สร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำก็มีเวลาไม่พอแล้ว
— การทำกิจกรรมเหล่านี้(วิ่ง;เวทเทรนนิ่ง)ทำให้ได้รู้สึกว่ามีบางส่วนของชีวิตที่เราพอจะพยายามเพื่อเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของมันได้อยู่บ้าง ผมรู้สึกว่ายังพอมีอำนาจในการเลือกอะไรให้กับชีวิตได้บ้างมากกว่าแค่การนั่งอธิษฐานอย่างเดียว
— ถ้าเรายอมรับอย่างจริงใจได้ว่าเราต้องตายนะเว้ย สุดท้ายเราจะตายและมันอาจเป็นวันนี้ก็ได้ มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนมุมมองต่อชีวิตที่สำคัญมากครั้งหนึ่ง
—อิคิไก คืองานที่เราอยากทำไปจนตายและอยากพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ มีจุดร่วม4อย่างคือ งานที่ชอบ งานที่ถนัด งานที่สร้างรายได้ที่มั่นคง และงานที่สร้างประโยชน์ให้สังคม ถ้าหางานที่ตอบโจทย์ทั้งสีด้านนี้ได้เราจะอยากทำมันไปตลอด
~นอกจากนั้นยังมีหลักการที่ให้เลือกงานที่ท้าทายเราไม่ใช่แค่งานที่เราชอบเพราะความชอบมันเบื่อได้แต่ความท้าทายจะทำให้เราสนุกไปกับมันและอยากเอาชนะให้ได้ท��ให้อยากพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
— เราไม่สามารถมีทุกสิ่งทุกอย่างได้เราต้องเลือกบางสิ่งและยอมสละหลายสิ่งที่เราไม่ได้เลือกไปเสมอ
“เวลาเราไม่ได้มีมากพอให้เราไปทำหรือมีทุกอย่างในโลก”
สิ่งที่เลือกมาแล้วจึงเป็นสิ่งที่พิเศษและสำคัญมากเพราะเรากำลังสละหลายสิ่งเพื่อให้ได้สิ่งนี้มาเพราะฉะนั้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ณ ตอนนี้ในช่วงเวลานี้มันจึงเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุด
วันนี้ของเราเป็นสิ่งเดียวที่เรามี
—การพยายามหาเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตเรามีความหมายมากขึ้น
ชีวิตไม่แน่นอน สุดท้ายเราทุกคนจะต้องตาย จงอยู่กับปัจจุบัน ใช้แต่ละวันให้เหมือนวันสุดท้าย ถ้ามีอะไรที่ทำเพื่อคนอื่นได้ก็แบ่งปันความโชคดีให้เขาบ้างและไม่ว่าชีวิตจะเลวร้ายแค่ไหน อย่าหมดหวังกับชีวิตเด็ดขาด
— อย่าเอาเวลาชีวิตที่แสนจำกัดนี้ไปใช้กับสิ่งที่คุณไม่ชอบเลย แค่ทำสิ่งที่ชอบเวลาก็ไม่พออยู่แล้ว
— อย่าเอาความสุขไปแขวนกับความคิดคนอื่นที่ไม่ได้มีความหมายอะไรกับคุณ
— ถ้าเรามองใหม่ คิดใหม่ ลองคิดในมุมที่ว่าเราจะเอาสิ่งที่มันเข้ามาในชีวิตเราแล้วไปทำประโยชน์ได้ยังไง เราจะเรียนรู้จากมันได้ยังไง ทุกสิ่งก็จะกลายเป็นของขวัญ🎁ของเรา
—คนเราเกิดมา เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุข

❤️ขอบคุณที่เขียน���นังสือเล่มนี้ค่ะ❤️
Profile Image for Mook Woramon.
720 reviews159 followers
November 11, 2023
จากอาจารย์แพทย์หนุ่มอนาคตไกล ใช้ชีวิตอย่างทะนุถนอม วางแผนอนาคตไว้เป็นอย่างดี
อยู่ ๆ ชีวิตพลิกผันเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจาย โลกพังทลายลงตรงหน้า

ในความโชคร้าย ในความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวลที่ถาโถมเข้ามา โชคดีที่คุณหมอได้ค้นพบความหมายชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง

คุณหมอได้พบความสุขของชีวิตที่เรียบง่าย
ได้ทำสิ่งที่มีความหมายโดยการถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเองให้เป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น

เรื่องราวของคุณหมอช่วยเตือนสติว่าความตายมาเยือนเราได้ทุกเมื่อ
เตือนให้มีความสุขกับปัจจุบันขณะ
เตือนให้รักและทะนุถนอมชีวิต ใช้ชีวิตให้ดี ๆ
เตือนสติถึงเหตุผลของการมีชีวิตอยู่

ขอบคุณคุณหมอกฤตไทที่เขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อบอกเล่าประสบการณ์
แม้วันใดที่คุณหมอจากไปหนังสือเล่มนี้จะยังอยู่ในใจผู้อ่านเสมอ ❤️❤️
Profile Image for Dd.
44 reviews10 followers
November 8, 2023
Key message ของเล่มนี้คงเป็น เรามีเวลาจำกัด
อ่านไปก็ตั้งคำถามกับชีวิตตัวเองไป เทียบไปต่างๆนาๆ คิดว่าถ้าตัวเองเป็นแบบคุณหมอจะเป็นยังไงน้อ..

“ การที่เราพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อประสบความสำเร็จโดยตั้งใจจะนำความสำเร็จไปให้คนที่เรารัก อาจไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง ”
อ่านประโยคนี้แล้วก็จึ้ก เพราะทุกวันนี้มาเรียนที่ต่างจังหวัด ได้กลับไปหาครอบครัวก็นานๆครั้ง บางทีเวลาเขาโทรมาหาก็รีบบอกปัดว่า ไม่ว่างคุย อ่านหนังสืออยู่ ซึ่งหลังจากนี้คงจะไม่ทำแล้วล่ะ

เป็นหนังสือที่อ่านจบแล้วอยากลุกมาเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างกับตัวเอง อยากเริ่มออกกำลังกาย อยากเริ่ม gratitude ชีวิตประจำวัน ถึงเราจะเปลี่ยนคณะที่เรียนอยู่ไม่ได้แต่ก็อยากเริ่ม appreciate สิ่งที่เราได้รับมาบ้าง เป็น memoir ที่ impact อยู่นะว่าไป

สุดท้าย “ อย่าไปใช้เวลาของคุณเพื่อความฝันของคนอื่นครับ ” อาจเป็นประโยคที่เรายังปฏิเสธไม่ได้ แต่จะพยามมองโลกในแง่ดีให้มากขึ้นนะ :)

————

บ่นๆสต : อ่านแล้วก็พูดไม่ได้เต็มปากหรอกว่ารีเลทเพราะคุณหมอเขาดูเอนจอยกับการเรียนมาก ในขณะที่ตอนนี้ชั้นไม่ไหวแร้วจ้ะ5555555 งานเข็มสัมพันธ์ที่คุณหมอเมนชั่นถึงเยอะๆอ่านละก็เจ็บใจเพราะปีนี้มหาลัยชั้นเป็นคนจัด ละเหน่ยมาก555555555
Profile Image for Larp.
60 reviews5 followers
November 11, 2023
หลังอ่านจบได้ข้อคิดว่า...
ถ้าหากเรารู้ว่าวันตายของเราใกล้เข้ามา ตอนนั้นอะไรคือสิ่งที่สำคัญกับเราจริงๆ เราจะยังไล่ตามความสำเร็จ ชื่อเสียง เงินทอง ความอยากต่างๆของเราอยู่ไหม? จงระลึกว่าทุกวันคือวันสุดท้ายของชีวิต (อยู่กับปัจจุบัน)​ เราอยากใช้ชีวิตแบบไหน อยากใส่ใจ/ไม่ใส่ใจกับเรื่องอะไร นั้นคือสิ่งที่เรากำหนดได้ ภายใต้ความไม่แน่นอนของชีวิตที่้แสนจะเปราะบาง
Profile Image for Nattatida.
51 reviews3 followers
November 23, 2023
เล่มนี้เล่าได้ถึงความสำคัญของเวลา และเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ได้ดีมากเลยค่ะ ���ห้เราได้กลับมาคิดถึงการมีชีวิตอยู่ของเรา ทิ้งท้ายด้วยการสะท้อนปัญหาของสิ่งแวดล้อม ความเชื่อ การเจ็บป่วย การรักษา ในมุมมองของแพทย์ที่เป็นคนไข้ได้ดีค่ะ
เป็นอีกเล่มที่อยู่ในกระแสสังคมของบุคคลากรทางการแพทย์ที่ต้องอ่านในช่วงนี้เลย
Profile Image for naviyada.
84 reviews2 followers
January 1, 2024
เป็นแรงบันดาลใจเป็นข้อคิดที่ดีสำหรับคนมีชีวิตธรรมดาที่ไม่ตระหนักว่าหากพรุ่งนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วจะใช้ชีวิตอย่างไร
เนื้อหาอ่านและเข้าใจง่าย พออ่านแล้วเราก็จะมีความคิดที่ว่า หากพรุ่งนี้ต้องตาย เราจะเลือกทำ หรือไม่ทำอะไร ตกตะกอนได้ว่า ก็จริงนะ บางทีเราเห็นว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้โคตรสำคัญ แต่คิดอีกทีมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย
ขอบคุณคุณหมอค่ะ เป็นบุญใหญ่หลวงสำหรับการเขียนแชร์เรื่องราวให้คนอีกมากมาย
Profile Image for specialday.
126 reviews2 followers
November 8, 2023
เป็นหนังสือที่พลังบวกมากๆ อ่านแล้วเข้าใจ ภาพที่เคยผ่านมาเมื่อปีก่อน ทุกๆอย่างสะท้อนกลับมาให้ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง และแน่นอนว่าทำให้น้ำตาไหลและคิดถึงแม่มากจริงๆ

เป็นหนังสือที่ให้มุมมองครบทุกๆมิติ ไม่ใช่แค่อีกนานแค่ไหนถึงจะตาย แต่เป็นยังเหลือเวลาเก็บความสุขอีกนานเท่าไหร่ และ’วันนี้‘ก็เป็นช่วงเวลาขณะเดียวที่เราทุกคนสามารถมีได้

การได้ค้นและพบเจอกับความหมายของการมีชีวิตอยู่ แม้จะเป็นช่วงที่แสนสั้น ซึ่งอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าสองหมื่นวัน แต่ชีวิตก็มีคุณค่า และเริ่มต้นที่‘วันนี้’ได้จริงๆ

#สู้ดิวะ
ขอบคุณมากๆที่มีหนังสือเล่มนี้ออกมาค่ะ
Profile Image for ANKO.
140 reviews12 followers
February 1, 2024
เป็นการเตือนสติว่า ชีวิตเรามีเวลาจำกัด
43 reviews
January 9, 2024
3.5/5 (round down)

เป็นหนังสือที่ดี เหมือนได้ติดตามชึวิตของหมอตลอดการรักษาและแนวคิดของหมอ อยากอ่านเล่มนี้เพราะช่วงปีให���่จมอยู่กับเรื่องในอดีต คาดไว้ว่าเล่มนี้จะช่วยจุดนี้เพราะเคยอ่านบทความของหมอเรื่องนี้มาก่อน แต่ในหนังสือไม่ได้มีเรื่องนี้เยอะเท่าที่คาดไว้ และเนื้อหาบางส่วนซ้ำกับในเพจด้วย ดาวหายเพราะเกิดจากความคาดหวังว่าจะมีสิ่งใหม่ๆ ให้อ่าน ไม่ได้เกิดจากเนื้อหาแต่อย่างใด

อดตั้งคำถามไม่ได้ว่าทำไมคนเราถึงต้องใกล้ตายก่อนถึงอยากทำอะไรมีประโยชน์ต่อสังคมหรือว่า��ยู่อย่างมีความสุข คงจะเหมือนที่หมอบอกว่าอาชีพทุกอาชีพบนโลกใบนี้มีเพื่อ distract you from thinking about death อยากจะอยู่ให้มีความสุขในปัจจุบันทุกวันเหมือนที่หมอทำโดยไม่ต้องรอว่าฉันจะตายแล้วค่อยมีความสุข

ชอบบทที่เขียนเรื่องการวิเคราะห์เรื่องยา อยากเอาไปให้อาม่าอ่านมากๆ 5555 เป็นสกิลที่คนไทยต้องมีจริงๆ

ขอบคุณหมอที่ออกมาเขียนและเรียกร้องเรื่องฝุ่น มันอาจจะเป็น correlation มากกว่า causation แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฝุ่นเป็นหนี่งในปัจจัย ทุกวันนี้ตั้งให้โทรศัพท์ให้แจ้งเตือนค่า AQI ต้องดูแลตัวเองเพิ่มไปอีกหนึ่งอย่าง อยากมีโมเ���นต์ออกไปเดินสวนแล้วค่า AQI สีเขียวบ้าง
Profile Image for Le Gongdong Blur.
162 reviews16 followers
February 28, 2024
หนังสือบอกเล่าผ่านมุมมองของคุณหมอในฐานะคนไข้ ถึงจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการแพทย์ แต่ก็อ่านเข้าใจง่าย บอกเล่าตั้งแต่ชีวิตก่อนที่คุณหมอจะตรวจเจอมะเร็ง การติดตามผลการรักษา ผลข้างเคียงที่เจอ ชีวิตระหว่างทาง พอช่วงไหนที่อาการดีขึ้นเราก็ดีใจตามไปด้วย 🥹 การตั้งคำถามกับประเด็นสังคม ปัญหาฝุ่น PM 2.5 (ซึ่งวันนี้ตอนที่อ่าน ฝุ่นก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย)

เป็นหนังสือที่พออ่านจบหลายคนคงได้กลับมาทบทวนชีวิตตัวเอง อะไรคือเหตุผลของการอยากมีชีวิตอยู่ของเรากันนะ หลายคนคงตอบคำถามนี้ได้ หลายคนคงต้องค้นหากันต่อไป

อีกข้อคิดของคุณหมอที่อ่านแล้วเหมือนกลับมาเตือนใจเรา คือ เวลาเราไม่ได้มีมากพอให้เราไปทำ หรือมีทุกอย่างในโลก แต่ "วันนี้" เป็นสิ่งเดียวที่เรามี "วันนี้" เรามีความสุขได้เลยนะ ทำ "วันนี้" ให้เต็มที่ แล้วเราจะไม่เสียใจหรือเสียดายกับชีวิตที่ได้ใช้ไป

อยากขอบคุณคุณหมอกฤตไท ที่ส่งต่อเรื่องราวดีๆ ส่งพลัง Positive และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และเพื่อนๆ ของคุณหมอด้วยนะคะ 🤍
Profile Image for louvrejoy.
57 reviews2 followers
March 20, 2024
เพิ่งได้มาอ่านเล่มนี้ เป็นเรื่องราวของคุณหมอกฤตไทอายุ 28 ปี ประสบความสำเร็จในชีวิตในหลาย ๆ ด้าน แต่ป่วยเป็นมะเร็งปวดระยะสุดท้าย เซลล์ได้ลุกลามไปยังสมองทำให้มีก้อนเนื้อในสมองหลายก้อน และเข้ารับการรักษามะเร็งที่กระจายตัวเหล่านี้ตลอดมา คุณหมอได้เขียนถึงคุณค่าของชีวิต ความตาย ความสุข ฯลฯ รับรู้ได้ว่าคุณหมอมีความหวังที่ยิ่งใหญ่มหาศาลจริง ๆ อยากส่งต่อพลังบวกและความหวังให้กับทุก ๆ คน อ่านแล้วได้ตระหนักถึงอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตตัวเอง ขอบคุณที่มอบสิ่งดี ๆ จากคุณหมอให้กับคนอื่นบนโลกใบนี้นะคะ ขอให้คุณหมอไปสู่สุขคติ
Profile Image for Olé Vorawee.
61 reviews
January 29, 2024
ได้อะไรเล็กๆ น้อยๆ จากมุมมองของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ทำให้กลับมาคิดทบทวนว่า อะไรสำคัญที่สุดในชีวิตเรากันแน่
Profile Image for Pim  Akk..
29 reviews
January 5, 2024
เราใช้เวลาอ่านหนังสือเล่มนี้จริงๆ 2 วัน ช่วงที่นั่งเครื่องไปและกลับต่างจังหวัด ยอมรับว่า ‘สู้ดิวะ’ เป็นหนังสือเล่มบางที่พลังงานรุนแรงมาก ที่บอกว่ารุนแรง เพราะมันให้พลังกับจิตใจเราอย่างมาก

คนเรามักจะคิดถึงอนาคตไกลๆ หรือคิดถึงอดีตที่ผ่านมา โดยลืมที่จะขอบคุณกับปัจจุบันแสนธรรมดาที่พิเศษสุดๆในตัวมันเอง จริงๆแล้วปีที่ผ่านมาให้ของขวัญในการ ‘อยู่กับปัจจุบัน’ กับเราได้ดีมาก เราจึงเข้าใจในสิ่งที่คุณหมอกฤตไทพยายามสื่อสารได้ประมาณนึง การที่ชีวิตเราดำเนินมาราบรื่นตามเป้าหมายมาโดยตลอด อาจทำให้เราเฉลียวใจไปว่า ‘สิ่งที่ผ่านมามันพิเศษมากๆ’ และ ‘มันสามารถไม่เป็นไปตามใจได้เสมอ’ เมื่อเราตั้งเป้า แล้วไปถึง เราดีใจแปปเดียว แล้วก็ตั้งเป้าใหม่ โดยอาจจะลืมคิดและไตร่ตรองว่า ‘เรามีความสุขกับปัจจุบันได้เสมอ’ ‘เราไม่ต้องทำได้ตามเป้าแล้วจึงมีความสุขก็ได้’ ระหว่างทางจึงสำคัญขึ้น เมื่อเราได้สติว่า ‘วันเวลาของเรามีจำกัด’

ขอบคุณคุณหมอ ที่มอบพลังงานชีวิตมหาศาล ในขณะที่กำลังเผชิญกับโรคร้าย ชีวิตคนเราคงเหมือนกับต้นไม้จริงๆ เกิดมาเพื่อเรียนรู้ที่จะโอบรับ และเมตตาต่อตนเองและผู้อื่นเสมอ ต้นไม้แม้ว่าเล็กหรือใหญ่ ย่อมสามารถให้ร่มเงาแกชีวิตอื่นได้เสมอ เราทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง และมีเหตุผลในการมีชีวิตอยู่เสมอ ค่อยๆหาเหตุผลของตัวเองให้เจอ และใช้ชีวิตในปัจจุบันขณะ ทำสิ่งที่มอบความสุขให้ตนเอง และคนรอบข้าง เพราะเราไม่รู้ว่า เรายังเหลือเวลาด้วยกันอีกกี่วัน

Profile Image for Tum Kanapon.
146 reviews12 followers
November 17, 2023
ผมอ่านหนังสือมากมาย
มีหนังสือไม่มากที่สั่นสะเทือน “หัวใจ”

หนังสือเล่มนี้เป็น “หนึ่ง” ในนั้น

ผมเห็นโพสของน้องไท ในเพจ @สู้ดิวะ
ซึ่งคงรู้สึกไม่ต่างจากทุกท่าน
มันเป็นเรื่องราวที่เรียล ที่ดาร์ก
แต่จุดที่มันน่าสนใจเอามากๆ
คือมันถูกเล่าด้วยคนที่มีทัศนคติที่ “ดี” มากๆ
ผมเชื่อว่า เราสัมผัสพลังบวกนั้นได้

หนังสือเล่มนี้ ได้ทำหน้าที่ที่ดีเยี่ยมขึ้นไป ในการถ่ายทอดเรื่องราว
รายละเอียดให้เราเข้าใจ “ไท” มากยิ่งขึ้น


ผมอาจจะอินมากหน่อย เพราะชีวิตน้อง ก็คล้ายคลึงกับผมอยู่ไม่น้อย
เป็นเด็กกรุงเทพ มาเรียนแพทย์ที่เชียงใหม่
เป็นคนที่รู้ตัวว่าอยากเป็นหมอช้า ต้องมาเร่งอ่านหนังสือตอน ม.ปลาย ก่อนใกล้สอบ
ชอบอ่านหนังสือ และ ทำกิจกรรม

ผมอ่านหนังสือเล่มนี้แบบรวดเดียวจบ
และก็ใจเต้นแรงระหว่างอ่านแต่ละหน้า
ทั้งเข้าใจ ทั้งเจ็บปวด ทั้งกระตุกความคิด

เมื่ออ่านจบ เราจะได้ย้ำคิดอีกครั้งว่า
“ชีวิตนั้นเปราะบาง” “ชีวิตไม่แน่นอน” “ชีวิตนั้นจำกัด”

ผมชอบประโยคที่เพื่อนของไท ได้เล่าให้ฟังถึงบทสนทนาว่า

“มันอาจจะมีเหตุผลที่ต้องเป็นกูก็ได้นะ”

แล้วไทก็ได้ตอบสนองเหตุการณ์นี้ในการถ่ายทอดเรื่องราวออกมา

อยากจะขอบคุณน้อง “ไท” สำหรับพลังที่น้องส่งออกมา

ขอให้น้องได้เป็น 1 ใน 20% ครับ

Profile Image for Prai Keawpran.
25 reviews1 follower
April 5, 2024
1.ดีใจที่ได้อ่านเล่มนี้ในวันที่เรายังแข็งแรงดีอยู่

2. มองดูตัวเองจริงๆรู้สึกเป็นอีกคนที่ใช้ชีวิตคล้ายๆ คุณหมอ อาจจะไม่ได้เก่งเท่าพี่หมอ ครอบครัวให้อิสระ ในอาชีพ แต่ก็รู้สึกว่าชีวิตต้องมีเป้าหมาย แบบที่คน รุ่นๆเราอยากจะมีนั่นแหละค่ะ อ่านหนังสือ พัฒนาตัว เอง ลงทุน ลงทุนในชีวิตในความรู้ มุ่งไปข้างหน้า หา โอกาส จนเข้าใจว่ามันคือบรรทัดฐานอย่างหนึ่งใน สังคมไปแล้วว่า ถ้าอยากมีชีวิตที่ดี้ ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มเป็นสูตรแบบนี้นั่นแหละ ขอบคุณที่พี่หมอมา สะกิดเตือนว่า ชีวิตเรามันก็เท่านี้ มีสิ่งที่เราควบคุมไม่ ได้อีกเยอะ เตรียมเผื่อใจสำหรับมันไว้บ้างล่ะ

3. เนื้อหาเล่าเรื่องราวคร่าวๆที่กระตุ้นเตือนในฐานะ หมอคนนึง แม้จะป่วยก็ยังคงเป็นหมอจนนาทีสุดท้าย เลย แม้จะไม่ได้อยู่รักษาคนป่วยต่อไป ในฐานะแพทย์ พี่หมอก็รักษาคนในฐานะนักเขียนแทนแล้วค่ะ​ แล้วคุณหมอเขียนสอดแทรกอารมณ์​ขั���ด้วย​ ตอนจากเหย้าสวนกุหลาบ​ หลุดขำก๊าก มุกหลินปิงออกมาเลยค่ะ​ 🤣

4. มีคำถามที่ชอบมาก พี่หมออวยพรว่า ขอให้ทุกคน พบความหมายของการมีชีวิตอยู่ของตัวเอง, ขอให้มี เหตุผลทุกการตัดสินใจของชีวิต

5. ดีใจที่ในวันนี้ของตัวเอง ได้ศึกษาทั้งสิ่งที่จะพาตัว เองไปข้างหน้า และสิ่งที่พาตัวเองมามองความคิด ความรู้สึก ของตัวเอง เพื่อเข้าใจตัวเองมากขึ้น พอมี เวลาที่ยากลำบากก็ไม่รู้จะจัดการตัวเองได้ไหม
ขอบคุณที่เกิดมาค่ะ​ 💕
Profile Image for Thxgemini .
4 reviews
November 9, 2023
ดีใจที่ตัดสินใจสั่งซื้อมา ถึงจะเคยอ่านเนื้อหาบางส่วนจากในเพจ แต่ความรู้สึกที่ได้มาอ่านแบบรวมเล่มก็ต่างกันระดับนึงเลย
สัมผัสได้ถึงความรู้สึกมากมายหลายอย่าง ความเศร้า ความสิ้นหวัง ความกดดัน
ความรู้สึกของหมอเมื่อต้องกลายมาเป็นคนไข้ซะเองมันจะเจ็บปวดมากขนาดไหนกัน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแฝงพลังมากมาย อัดแน่นอยู่ในเนื้อหา
ไม่ใช่แค่พูดถึง abstract ของชีวิตระยะสุดท้าย แต่ยังพูดถึง fact ชีวิตจริงหลายๆอย่าง
งานที่เราอยากทำจริงๆ สุขภาพ ความสัมพันธ์ สิ่งสำคัญในชีวิต
แก่นสำคัญที่สุดคงไม่พ้นเรื่องของประโยคที่ว่า "เวลามีจำกัด"
"เวลาของเราไม่ได้มีมากพอให้เรามีหรือไปทำทุกอย่างบนโลก"
ความจริงง่ายๆที่เรามักลืมกันไป
Focus ให้ถูกจุดกับชีวิตแต่ละวันที่มันผ่านไป และอย่าลืมความจริงข้อนี้
ขอบคุณในวันธรรมดาแต่ละวันที่เรามี
และอย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี

ขอบคุณหนังสือเล่มนี้ที่ทำให้ฉุกคิดเกี่ยวกับชีวิตตัวเองได้มากขึ้น
1. เรื่องการใช้ชีวิตในแต่วัน
2. อย่าลืมให้ความสำคัญกับสุขภาพ
3. อิคิไกของเราคืออะไร (ความรู้สึกของการได้พูด ได้สอน และ clinical epidermology)

ขอบคุณผู้เขียนที่ได้ส่งต่อพลังบวกนี้ออกมา รู้สึกจุดประกายหลายๆอย่างและคิดว่าคงได้กลับมาอ่านอีกได้หลายครั้งเลย
This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for Duangkamol L..
10 reviews
June 5, 2024
สู้ดิวะ
- กฤตไท ธนสมบัติกุล
"บทเรียนล้ำค่าจากคุณหมอผู้เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายซึ่งค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่"

หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาไม่เศร้านะ.. แต่ด้วยความจริงที่คุณหมอเสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2023 ที่ผ่านมามันทำให้ตอนอ่านมันรู้สึกเศร้ามาก ๆ เลย แต่เราก็ดีใจที่ได้ใช้วันหยุดวันนี้ทั้งวันอ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ.. อ่านหมดทุกคำ..

เนื้อหาโดยรวมก็เพื่อเป็นกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ ที่ได้อ่านได้หันมามองชีวิตตัวเอง และมีความสุข รู้สึกขอบคุณความปกติในชีวิตให้มากขึ้น ให้ลุกขึ้นมา "สู้ดิวะ" และหาคำตอบของคำถามที่ว่า "สู้ไปทำไมวะ" ด้วยเหมือนกัน

นอกจากนั้นแล้วคุณหมอก็ยังแชร์ในเรื่องของการใช้ตรรกะในการตัดสินใจ ตั้งคำถาม และถามคำถามเชิงโครงสร้างต่อเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีสติในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มากมายในโลกปัจจุบัน

ในหนังสือนี้เอง คุณหมอมีพูดถึงหนังสือ "The Subtle Art of Not Giving a F*ck" กับ "อิคิไก" ด้วย เดี๋ยวไว้วันหลังจะมารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้อ่านนะคะ

สุดท้ายนี้เราขอแชร์ข้อความจากหนังสือถึงผู้อ่านทุกท่านนะคะ
~ ขอให้มี "วันนี้" ที่มีความสุข
~ ความสุขไม่ได้อยู่ที่ปลายทาง ทว่าเกิดขึ้นระหว่างทางที่เราเดินไป
Profile Image for Meenar P..
3 reviews
April 1, 2024
เราเคยอ่านโพสต์จากเพจของคุณหมอมาบ้าง พอจะรู้สึกได้ว่า คุณหมอเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก พลังงานบวกล้นเหลือ เริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยคำถาม/ความคาดหวังที่ว่า พอคนดีๆมองโลกในแง่ดีมีพลังบวกเจอเรื่องแย่ๆ เขาจะทำยังไง จะรับมือกับมันยังไง แน่นอนในหนังสือไม่ได้บอกเราตรงๆว่าต้องทำยังไง แต่เป็นเรื่องเล่าว่าคุณหมอต้องเจออะไร และคิดยังไง

ตอนอ่านเรารู้สึกเหมือนมีใครมาเล่าให้ฟัง เหมือนเป็นบทสนทนากับเพื่อน กับพี่มากกว่า ตั้งแต่แรกจนเกือบจะจบเล่ม เรารู้สึกว่าเป็นการเล่าแบบ “สู้ดิวะ” ตามชื่อหนังสือ แต่ส่วนท้ายๆของหนังสือที่เริ่มมีคำถามว่า “สู้ไปทำไม” “ไม่สู้แล้วก็ได้ไหม” ส่วนนี้ทำงานกับเราหนักมาก รู้สึกสะเทือนไปหมด ทั้งๆที่ตัวอักษรการเล่าเรื่องยังเป็นรูปแบบเดิมตั้งแต่ต้น

สุดท้าย เราทุกคนก็มีสิ่งที่อยากจะสู้เพื่อที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งนั้นให้คุ้มค่ามากที่สุดกันทั้งนั้น เราเองก็มี หนังสือเล่มนี้มาย้ำและทำงานกับเราแบบนั้น
This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for Pailin.
16 reviews
December 23, 2023
แม้ว่าเนื้อหาจะไม่ได้หวือหวา หรือ มีอะไรใหม่ แต่หนังสือเล่มนี้ก็มีเสน่ห์มาก อ่านไปแค่นิดเดียว ก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจที่จะส่งมอบคุณค่าให้กับคนอ่าน สัมผัสได้ถึงความเรียล ทัศนคติที่มองโลกตามความเป็นจริง การยอมรับความรู้สึกของตัวเองทั้งแง่ดี และไม่ดี และสัมผัสได้ถึงจิตใจที่เข้มแข็งของคุณหมอ

ถึงแม้ว่า วันนี้คุณหมอจะจากไปแล้วและในฐานะผู้อ่านต้องบอกว่าเสียดายมากๆ ที่จะไม่ได้ติดตามผลงานเขียนของคุณหมออนาคตไกลคนนี้อีก แต่ต้องยอมรับว่าคุณหมอได้ฝากสิ่งดีๆ และมันเป็นแรงกระเพื่อมให้คนในสังคมนี้ไม่มากก็น้อยได้หันกลับมาทบทวนชีวิตของตัวเองและปรับใจให้สบตากับความตายได้อย่างเป็นมิตรมากขึ้น

ขอบคุณและขอให้ดวงวิญญาณของคุณหมอไปสู่สุคติค่ะ
Profile Image for too lazy to read.
52 reviews10 followers
November 10, 2023
[4.7/5] เป็นหนังสือแนวฮาวทู/ให้แง่คิด ที่ไม่ง่วงอีกเล่ม เลย อ่านรวดเดียวจบ เป็นการเล่าเรื่องที่ไม่น่าเบื่อเลย เหมือนได้ติดตาม เอาใจช่วย ชีวิตนึงที่กำลังดิ้นรนเพื่อมีชีวิตต่ออีกวันนึง ส่วนตัวชอบเรื่องเกี่ยวกับศัพท์การแพทย์อยู่แล้ว เล่มนี้มีพูดถึงค่อนข้างเยอะและเล่าได้เข้าใจง่ายมาก ทำให้เล่มนี้มีเสน่ห์มากกว่าหนังสือฮาวทูทั่วไป เป็นเล่มที่เหมาะกับการซื้อให้คนอื่น เป็นของขวัญมาก ๆ หรือจะให้ของขวัญตัวเองด้วยเล่มนี้ ก็ดีไม่แพ้กัน หักคะแนนนิดหน่อยเพราะสั้นไปล้วนๆ อยากให้ยาวกว่านี้ แล้วรวมลงลึกเรื่องการรักษาเพิ่มไปอีก คงจะน่าสนใจขึ้นอีกไม่น้อย
Profile Image for Benchaphorn Thammathorn.
103 reviews38 followers
November 12, 2023
หมอเขียนได้ positive โครตๆ
Self ดี supporting system ดีมากๆ หมอโชคดีมากๆในความโชคร้ายมากๆ
แต่สุดท้ายแล้วมันก็กลับมาที่ความคิดสุดท้าย
ยอมรับ อย��่กับมัน ใช้ชีวิตต่อไป
คิดเหมือนกันว่าข้อดีของการเป็นโรคแบบนี้ คือเรารู้ว่าเราจะใช้ชีวิตได้อีกเท่าไหร่

(ในมุมมองส่วนตัว อ่านแล้วบวก แต่ยังไม่กินใจ ไม่รู้เพราะตัวเองคิดว่าไทใช้ defense กึ่งๆ intellectual เยอะ อยู่กับความคิดตัวเองเยอะ ไม่ค่อยลง emotion ในงานเขียน หรืออออ ปัจจัยใหญ่คือเราทำงานในมุมนี้ เลยวิเคราะห์ไประหว่างอ่าน น่าจะเป็นอย่างหลังแหละ)

สุดท้าย รัฐบาลทำอะไรทีเหอะ เรื่องฝุ่น ขอหละ
4 reviews
December 10, 2023
#สู้ดิวะ (หมอกฤตไท) เป็นหนังสือที่นักอ่านเกือบทุกคนในประเทศไทยน่าจะรู้จักและอ่านจบแล้ว (ตอนแรกว่าจะไม่ซื้อ เพราะคิดว่าน่าจะคล้ายกับเรื่องในเพจที่หมอเขียน แต่พอเปิดอ่าน อ้อ มันมีอะไรลึกซึ้งมากกว่าบนเพจที่สมควรซื้อเก็บ)

โดยภาพรวมก็คือเรื่องของเวลา อยู่กับปัจจุบัน ปล่อยวางเรื่องหงุดหงิดเล็กๆน้อยๆในชีวิตไปเถอะ แล้วใส่ใจกับความสุขเล็กๆน้อยในแต่ละวันแทน แต่มีบทเรียนหนึ่งจากหมอกฤตไทที่เด่นขึ้นมาและเราชอบมาก คือ “แบ่งปันโชคดีของเราให้คนอื่นบ้าง” มันคือเรื่องเล็กๆแต่สวยงามนะ อะไรที่เราโชคดี สามารถให้คนที่มีน้อยกว่าเราได้โดยไม่ลำบาก พอได้ให้เราก็มีความสุขเล็กๆแล้วในแต่ละวัน
Profile Image for Jeed Smk.
6 reviews
December 29, 2023
โชคดีที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ในหลายครั้งที่คนเราคิดว่าจะได้เล่นเกมส์ชีวิตไปอีกนาน มีรูปแบบสูตรเกมชีวิตหรือทางลัดที่จะทำให้เราผระสบความสำเร็จในชีวิต ไล่ล่าการงาน การเงินไปได้ตลอด แต่สุดท้ายเกมก็มีวันจบ หนังสือเล่มนี้บอกเราว่า ให้ใช้ชีวิตทุกนาทีอย่างมีคุณค่าและคุ้มที่สุด แค่ได้มีชีวิตเพิ่มมาอีก1วัน ก็ถือว่าเป็นของขวัญชีวิตแล้ว บางครั้งชีวิตไม่เป็นใจ เจออุปสรรคที่ทำให้เราคิดว่า จะสู้ไปทำไมวะ ? แต่สุดท้ายเมื่อเราหาเหตุผลในการมีชีวิตต่อไปได้ แม่กระทั่งเรื่องเล็กน้อยๆ ก็ทำให้เรามีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไปได้ สู้ดิวะ!!
16 reviews
January 14, 2024
หนังสือของหมอเรียบเรียงได้ดีมาก แม้จะเป็นเล่าประวัติ เล่าถึงการรักษาซึ่งมีขั้นตอนต่างๆ แต่อ่านแล้วตามทันและรู้สึกไปด้วย 🙂 อาจจะเพราะความชอบสอน ชอบถ่ายทอด แบ่งปันให้ผู้อื่นของหมอ หมอเก่งมากที่ถ่ายทอดเรื่องเศร้าให้กลายเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยความหวัง กำลังใจ ให้กับคนอ่านได้ หมอทำให้เราทบทวนการใช้ชีวิตของตัวเอง ได้ฟังเพลงสองหมื่นของสแตมป์อย่างตั้งใจ
…อยู่ที่เราจะใช้เวลาที่มีอยู่ในโลกนี้กันยังไง เพื่อให้กับตัวเองทุกวัน หรือจะแบ่งปันให้คนอื่นบ้างไหม…
Profile Image for Boon.
306 reviews7 followers
October 22, 2023
เป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งที่ผมเคยอ่าน เปลี่ยนกรองจากประสบการณ์ตรงของคุณหมอที่ผมตรงนับถือว่าเป็นคนที่สู้จริงๆและมองชีวิตในแง่บวกสุดสุด เป็นหนังสือที่ทำให้เราต้องกลับมาคิดว่าเราใช้ชีวิตในแต่ละวันได้ดีท���่สุดแล้วหรือยัง สำนวนภาษาอาจจะไม่ได้สละสลวยเหมือนนักเขียนมืออาชีพแต่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกได้เต็มที่จริงๆ

ขอบคุณที่เขียนหนังสือเล่มนี้ครับ
Profile Image for ct.
8 reviews
April 11, 2024
3.5/5

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องราวและรู้จักพี่หมอแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ อ่านจบก็พอจะรู้สึกสิ่งที่พี่หมอคิดถึงอยู่ตลอด 1. ระยะเวลาที่เหลืออยู่นั้นจำกัดและน้อยมาก 2. การออกกำลังกาย (เล่นบาส) 3. คนรอบตัวที่ใจดีและน่ารัก พี่หมอสู้จนถึงที่สุดแล้ว สุดท้ายนี้หลับให้สบายนะคะ ขอบคุณที่มาเล่าเรื่องราวในชีวิตให้ฟังค่ะ

แนว Self-help ก็ยังไม่ใช่แนวที่เราชอบเท่าไหร่ แต่อ่านจนจบเลยนะ
Profile Image for Sura Sukkasem.
117 reviews
November 18, 2023
เป็นหนังสือที่สะเทือนใจ และทำให้เราย้อนกลับไปคิดว่าเราควรต้องทำอะไรต่อไปถ้าหากเราไม่รู้เลยว่าเรามีเวลาเหลือเท่าไหร่ ไม่อยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มสุดท้ายที่คุณหมอไทเขียน อยากให้มีสู้ดิวะ เล่ม 2,3,.....,10 รออ่านอยู่นะครับ
October 23, 2023
เขียนออกมาได้เรียลจนทำให้มองเห็นโลกตามทีืควรจะเป็นได้ดีมากๆค่ะ
October 25, 2023
เล่มแรกที่อ่านวันเดียวจบ
สร้างแรงบันดาลใจ ให้ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายในทุกวันที่ยังมีลมหายใจ
Profile Image for Soung Iimoya.
125 reviews2 followers
October 30, 2023
“ชีวิตไม่แน่นอน สุดท้ายคนเราจะต้องตาย จงอยู่กับปัจจุบัน ใช้ทุกวันให้เหมือนวันสุดท้าย”

เป็นคนที่เตรียมตัวตายอยู่แล้ว ได้ข้อคิดอีกมาก ขอบคุณที่เขียนออกมา และขอบคุณที่ยังมีชีวิตอยู่
Displaying 1 - 30 of 38 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.